11/12/2025
ทำไมปี 2026 การตลาดแบบ DM (Direct Message) ถึงกลับมาฮิตอีกครั้ง

ทำไมปี 2026 การตลาดแบบ DM (Direct Message) ถึงกลับมาฮิตอีกครั้ง

ตลอดหลายปีที่ผ่านมา การตลาดออนไลน์ถูกครอบงำด้วยโพสต์หน้าเพจ คลิปไวรัล และคอนเทนต์สั้นบน TikTok แต่ในปี 2026 เราเริ่มเห็นเทรนด์ใหม่ที่จริง ๆ แล้วเป็นเทรนด์เก่าที่กลับมาแรงอย่างมหาศาล นั่นคือ การตลาดผ่าน DM (Direct Message) ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, LINE OA, TikTok Shop หรือแพลตฟอร์มอื่น ๆ การขายผ่านการทักโดยตรงกำลังกลายเป็นอาวุธสำคัญของธุรกิจทุกรูปแบบอีกครั้ง

เหตุผลไม่ใช่เพราะระบบเปลี่ยน แต่เพราะ พฤติกรรมลูกค้าเปลี่ยน ลูกค้าต้องการความมั่นใจ ต้องการคำแนะนำ ต้องการคำตอบที่รวดเร็ว และต้องการการสื่อสารแบบเฉพาะตัวมากขึ้นกว่าเดิม เมื่อคอนเทนต์และโฆษณาเริ่มเยอะจนคนรู้สึกเฉย การพูดคุยแบบตัวต่อตัวใน DM จึงกลับมาเป็นพื้นที่ที่ “ขายจริง” ได้มากที่สุดบทความนี้จะพาไปดูว่าทำไม DM ถึงกลับมาฮิต และแบรนด์ควรใช้ช่องทางนี้อย่างไรให้เกิดผลสูงสุด

DM กลับมาฮิตเพราะลูกค้าอยาก “คุยกับคนจริง” มากกว่าดูโพสต์

ลูกค้าหลายคนไม่ได้ต้องการดูคอนเทนต์เพิ่ม แต่ต้องการความชัดเจน เช่น สินค้าชิ้นไหนเหมาะกับเขา ต้องเลือกแบบไหน ราคาเท่าไหร่ และมีของแถมอะไรบ้าง สิ่งเหล่านี้ตอบผ่านโพสต์ได้ไม่ครบ แต่ตอบแบบส่วนตัวใน DM ได้ครบทุกข้อ อีกเหตุผลคือ ลูกค้ารู้สึกสบายใจกว่าที่จะถามในพื้นที่ส่วนตัว แทนที่จะคอมเมนต์บนโพสต์ที่มีคนเห็น ทันทีที่ได้คำตอบที่ชัดเจน การตัดสินใจซื้อจะเกิดเร็วขึ้น

อัลกอริทึมยุค 2026 ชอบบัญชีที่มี “การแชต” มากกว่าการโพสต์

แพลตฟอร์มต่าง ๆ เริ่มให้ความสำคัญกับ Engagement แบบ 11 เพราะเป็นสัญญาณว่าบัญชีนั้นมีคุณภาพ ยกตัวอย่างเช่น

  • Facebook ให้คะแนนเพจที่ตอบแชตเร็ว
  • Instagram ชอบบัญชีที่มี DM ต่อเนื่อง
  • TikTok Shop ให้คะแนนร้านที่มีการตอบลูกค้าสม่ำเสมอ
  • LINE OA ใช้ระบบ Reward ในการตอบแชตเร็วและต่อเนื่อง

หมายความว่า ยิ่งคุย ยิ่งดี ยิ่งทัก ยิ่งโต และยอดขายตามมาแบบธรรมชาติ DM จึงกลายเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของแบรนด์ยุคใหม่

DM ช่วยปิดการขายได้ดีกว่าโพสต์หลายเท่า

การขายผ่านโพสต์คือการสื่อสารแบบกว้าง แต่การขายผ่าน DM คือการสื่อสารแบบเฉพาะบุคคล ลูกค้าจึงกล้าบอกปัญหา กล้าถามในสิ่งที่ไม่อยากโพสต์ถาม และกล้าขอคำแนะนำแบบละเอียด สิ่งนี้ทำให้แบรนด์สามารถเสนอสินค้าที่เหมาะที่สุด พร้อมปิดการขายได้ง่ายกว่า DM ช่วยสร้างความรู้สึกว่า “แบรนด์นี้ดูแลฉันจริง ๆ” ทำให้ยอดซื้อซ้ำสูงขึ้นอย่างชัดเจน

DM ทำงานร่วมกับระบบ Automation ได้ดีมากในปี 2026

หนึ่งในเหตุผลสำคัญที่ DM กลับมาฮิตคือการมีเครื่องมือ Automation ที่ฉลาดขึ้น เช่น

  • ระบบตอบคำถามอัตโนมัติ
  • ระบบเสนอสินค้าโดยอิงจากพฤติกรรม
  • ระบบยิงข้อความอัตโนมัติเมื่อมีลูกค้าเข้ามาดูสินค้า
  • ระบบ Followup ลูกค้าอัตโนมัติ

DM ไม่ใช่งานหนักเหมือนอดีตอีกต่อไป เพราะ AI และ Bot สามารถช่วยทำงาน 70% และให้แอดมินหรือเจ้าของร้านช่วยปิดในช่วงสุดท้าย นี่ทำให้ DM กลายเป็นช่องทางที่ “ใช้แรงน้อยลง แต่ขายได้มากขึ้น”

ธุรกิจที่ได้ผลดีมากจากการใช้ DM ในปี 2026

ธุรกิจที่ลูกค้าต้องการการเลือกแบบเฉพาะตัว ได้แก่

  •  ความงาม ผิวแบบไหนควรใช้สูตรไหน
  •  อาหารเสริม เป้าหมายแต่ละคนต่างกัน
  •  แฟชั่น ไซซ์ สี สไตล์ ต้องคุยละเอียด
  •  เครื่องใช้ไฟฟ้า ต้องอธิบายคุณสมบัติ
  •  สินค้าราคาไม่สูงมากแต่ต้องการความมั่นใจ
  •  บริการ ลูกค้าต้องถามก่อนซื้อเสมอ

ธุรกิจกลุ่มนี้ใช้ DM แล้วปิดการขายได้ดีกว่าโพสต์หน้าฟีดหลายเท่า

วิธีใช้ DM ให้ได้ผลสูงสุด สำหรับแบรนด์ยุค 2026

  1. ตอบเร็วที่สุด เพราะความเร็วคือความน่าเชื่อถือในโลกโซเชียล
  2. มี Script หรือ Flow คุยที่ชัดเจน ลดเวลาคุยแต่เพิ่มคุณภาพ
  3. ถามคำถามปลายเปิด เช่น “ต้องการใช้งานแบบไหน?” เพื่อให้ลูกค้าเปิดใจ
  4. ให้ข้อมูลแบบเฉพาะตัว ไม่ใช้ข้อความก๊อบวาง
  5. ปิดด้วยข้อเสนอพิเศษเฉพาะในแชต เช่น “โอนวันนี้ส่งด่วนฟรี”
  6. เก็บข้อมูลลูกค้าเพื่อนำกลับมาใช้กับ DM รอบถัดไป
  7. ใช้ระบบ Automation ช่วยงานพื้นฐาน เพื่อทีมทำงานง่ายขึ้น

DM ที่ดีไม่ใช่การทักขาย แต่เป็นการแนะนำแบบจริงใจจนลูกค้ารู้สึกว่า “คุยแล้วอยากซื้อ”

DM คือการตลาดที่กลับมาแรง เพราะลูกค้าอยากได้ “ความใส่ใจแบบเฉพาะตัว” ปี 2026 คือปีที่แบรนด์จะขายผ่าน DM ได้มากกว่าหน้าเพจ เพราะลูกค้าต้องการความมั่นใจ ต้องการข้อมูลแบบเฉพาะตัว และต้องการคนที่ช่วยเขาตัดสินใจ DM จึงเป็นพื้นที่ที่สร้างยอดขาย สร้างความเชื่อใจ และสร้างลูกค้าประจำได้ดีที่สุด ธุรกิจที่เริ่มใช้ DM อย่างมีกลยุทธ์ก่อน จะได้เปรียบคู่แข่งอย่างมหาศาล โดยไม่ต้องเพิ่มงบโฆษณาแม้แต่นิดเดียว